เกมฟุตบอลไทยลีก 2020 วันอาทิตย์ที่ 7 มี.ค.64 “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี เปิดบ้านรับ สมุทรปราการ ซิตี้ สกอร์แรกเริ่มขึ้นในนาที 19 จาก บาร์รอส ทาร์เดลี่ โหม่งให้ “เขี้ยวสมุทร” สมุทรปราการ ซิตี้ ออกนำ 1-0 จนหมดครึ่งแรก
ครึ่งหลัง ผ่านไปเพียงแค่ 3 นาที ศิลา ศรีกำปัง ยิงตีเสมอให้ “ค้างคาวไฟ”สุโขทัย เอฟซี เป็น 1-1 ถึง นาที 54 ธีระพล เยาะเย้ย ยิงให้ “เขี้ยวสมุทร” ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 ทว่าถึงนาที 60 เจ้าบ้านตีเสมออีกครั้ง เมื่อ โย ซัง แฮ เปิดบอลยาวจากหลังทิงให้กับ อิ๊บสัน เมโล่ ที่หลุดกับดักล้ำหน้ากระชากเข้าไปยิงตุงตาข่าย แต่ทางทีมเยือนบอกว่าเป็นล้ำหน้าทำให้ผู้ตัดสินต้องเช็คจากห้องวีเออาร์ก่อนยืนยันให้เป็นประตูสุโขทัย เอฟซี ตามตีเสมอ 2-2
แต่แล้วช่วงท้ายเกมใกล้หมดเวลา กลายเป็น ชญาวัติ ศรีนาวงษ์ ยิงให้ทีมเยือนขึ้นนำอีกครั้ง ในนาที 87 และกลายเป็นประตูชัยให้ สมุทรปราการ ซิตี้ บุกมาเอาชนะ สุโขทัย เอฟซี ไปอย่างหวุดหวิด 3-2 ประตู
ส่งผลให้ เขี้ยวสมุทร ได้ 3 ประตูจากนักเตะไม่ซ้ำหน้า และได้เฮ 2 เกมติด ขยับรั้งที่ 5 ขณะที่ “ค้างคาวไฟ” พ่าย 4 เกมติด อยู่ชิดโซนแดง และการที่ เจ้าถิ่นพ่ายในเกมนี้ ยังช่วยต่อลมหายใจให้ ระยอง เอฟซี ยังได้ลุ้นหนีตกชั้นต่อในเกมหน้า
ส่วนอีกคู่ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เสมอ ชลบุรี เอฟซี 0-0
ขณะที่ คู่สุดท้าย การท่าเรือ เอฟซี เสมอ แบงค็อก ยูไนเต็ด 2-2 โดย “สิงห์เจ้าท่า” ออกนำท้ายเกมครึ่งแรก 1-0 จาก ยานนิค โบลี่ ถึงนาที 52 เอเวอร์ตัน ไล่ตีเสมอให้ “แข้งเทพ” 1-1 ถึงนาทีที่ 67 การท่าเรือได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ฮาจิเมะ โฮโซไก ไปทำฟาวด์ อดิศักดิ์ ไกรษร ในเขตโทษผู้ตัดสินย้อนดูวีเออาร์ ก่อนเป่าเป็นจุดโทษให้เจ้าบ้าน เซร์คิโอ ซัวเรส รับหน้าที่สังหารเสียบมุมเสาแรกเข้าไป ช่วยให้ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี นำ “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 2-1 ทว่าถึงนาที 78 แบงค็อก ได้จุดโทษบ้าง เฮแบร์ตี้ แฟร์นันเดซ สังหารตีเสอเป็น 2-2 ครบ 90 นาทีแบ่งแต้มกันไปด้วยสกอร์ดังกล่าว