คณะลิเกสุดช้ำโดนหลอกให้เล่น 7 คืน แต่เบี้ยวค่าจ้าง ไม่มีค่ารถกลับบ้านต้องไลฟ์สด ขอบริจาคเงินค่าน้ำมัน
วันที่ 4 ธันวาคม 2564 ที่จังหวัดอุทัยธานี ผู้สื่อข่าว ลงพื้นที่พบ นายวิริพล อ่ำทัพ อายุ 36 ปี ชาวบ้านหมู่ 9 ตำบลสุขฤทัย อำเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อที่แสดงลิเกว่า ทวัชชัย มาลัยเงิน และ นายก้องภพ บุญช่วย อายุ 43 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ตำบลน้ำซึม อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ชื่อที่ใช้แสดงลิเกว่า ก้องภพ ฤทธิไกร หลังได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา นายคมสันต์ จันทร์แสง นายกสมาคมลิเกจังหวัดอุทัยธานี ติดต่อกับทีมลิเกของตนว่า มีคนจ้างไปร่วมเล่นลิเกกับคณะลิเกอีกหลายจังหวัด โดยให้เดินทางไปเล่นแสดงที่วัดดอนเจดีย์ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี
ซึ่งมีคนว่าจ้างลิเกทั้งหมดอีกต่อหนึ่งเป็นคนจ้าง โดยที่นายคมสันต์ นั้นเป็นผู้จัดหาลิเกให้เท่านั้น เมื่อทำการแสดงในคืนแรกนั้นก็เล่นไปตามที่ว่าจ้างตามปกติ แต่พอมาวันที่ 2 ที่ทำการแสดง คือวันที่ 24 พฤศจิกายน หลังจากที่เล่นลิเกในคืนนั้นจบลง ทางคณะลิเกของนายวิริพล ชื่อที่แสดงลิเกว่า ทวัชชัย มาลัยเงิน ก็ได้ทวงถามถึงค่าตัวกับคนที่ติดต่องานมาก็คือ นายคมสันต์ แต่ก็ได้ให้คำตอบว่า ในวันพรุ่งนี้ทางผู้ว่าจ้างนั้นจะนำค่าแรงมาให้กับลิเกทุกคนตามที่ตกลงกันไว้คือวันละ 600 บาทต่อคน ในนามคณะชาญชัย สมพร พร้อมกับขอหมายเลขบัญชีลิเกทุกคนไว้อีกด้วย
โดยบอกว่า เพื่อเป็นการสะดวกในการโอนค่าตัวลิเก ซึ่งผ่านมาอีกหนึ่งวัน หรือวันที่ 25 พฤศจิกายน ก็ยังไร้วี่แววของผู้ว่าจ้างที่มาเล่นที่วัดแห่งนี้และเงียบหายไป จึงทำให้ทุกคนในคณะต้องอาศัยนอนเต็นท์ที่เตรียมมาในโรงลิเกกับชาวลิเกที่ไปด้วยอีก 22 คน และต่างคนก็ไม่มีเงินติดตัวเลยด้วยซ้ำ ด้วยเพราะว่า ก่อนหน้านี้ไม่มีงานแสดงลิเกที่ไหนเลย เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และการเดินทางมาเล่นลิเกที่จังหวัดกาญจนบุรีนั้น ทางลิเกทั้ง 22 ชีวิต ก็ต้องกู้หนี้ยืมเงินมาเป็นค่าเดินทางเติมน้ำมันก่อนด้วยซ้ำ
ซึ่งทั้งสองคนเปิดเผยอีกว่า อยากกลับบ้านมาก แต่ก็ไม่มีเงินจะกลับและไม่รู้จะทำอย่างไร โดยมีรุ่นพี่ลิเกได้บอกให้ลองไลฟ์สด ขอความช่วยเหลือจากคนดูในโลกโซเชียลจนสุดท้ายได้เงินมาจำนวน 2 หมื่นกว่าบาท จึงนำเอามาแบ่งให้กับลิเกที่ร่วมเดินทางมาจากอุทัยธานีจำนวน 22 คน ก็ได้คนละ 1 พันกว่าบาทเป็นค่าเดินทางกลับมาจังหวัดอุทัยธานีได้
จึงอยากเปิดเผยเรื่องนี้ให้คนรับรู้ว่า ทำไมผู้ว่าจ้างที่แท้จริงนึกอย่างไรที่ทำไปอย่างนั้น ไม่เห็นอกเห็นใจลิเกอีกหลายชีวิตเลย ไม่เพียงแค่ลิเกในจังหวัดอุทัยธานีเท่านั้น ที่ถูกหลอกแบบนี้ ยังมีลิเกจากจังหวัดสุโขทัย จังหวัดอุตรดิถต์ และพิจิตร ที่ถูกติดต่อให้ไปทำการแสดงเช่นกัน โดยเดิมทีนั้นได้มีการติดต่อให้ไปทำการแสดงถึง 7 คืนด้วยซ้ำ แต่ด้วยทางลิเกจากจังหวัดอุทัยธานีนั้น เห็นว่ายังไงก็ไม่ได้ค่าตัวแน่ จึงกลับมาก่อน พร้อมกับได้ทำการลงบันทึกประจำวันไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่จะเดินทางกลับอีกด้วย ส่วนลิเกที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่นๆ ที่ยังเชื่อว่าจะได้ค่าตัวบางคนก็ยังอยู่ต่อ และได้ทำสัญญากับผู้ว่าจ้างกัน แต่ก็ยังไร้วี่แววของผู้ที่จ้างอีกตามเคย
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่