ภายหลังบทสรุปในการเลื่อนชั้นและตกชั้นในไทยลีก 1 และ 2 เสร็จสิ้นไปแล้ว ยังคงเหลือเพียงไทยลีก 3 ที่มีให้ลุ้นกันยาวในการคัดเลือกทีมจาก “อเมเจอร์ลีก” เพื่อขึ้นสู่ก้าวแรกในลีกอาชีพ “ไทยลีก3”
การเลื่อนชั้นใน 6 โซน “กรวีร์ ปริศนานันทกุล” รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด ยังยืนยันถึงวินาทีสุดท้าย “ไทยแลนด์ อเมเจอร์ ลีก 2022” ในโซนภาคเหนือเหนือ และโซนภาคใต้ เลื่อนชั้น 2 ทีม
ส่วนที่เหลือในโซนภาคตะวันตก, โซนภาคตะวันออก, โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และโซนกรุงเทพฯ แข่งขัดคัดเหลือผู้ชนะเลิศเพียงทีมเดียวเลื่อนชั้นสู่ “ไทยลีก 3”
อย่างไรก็ตาม ความหวังมีแบบเลือนลางอาจได้รับการพิจารณาเพิ่ม กรณีทีมไทยลีก 3 ในโซนนั้นไม่ส่งทีม หรือมีปัญหาในเรื่องคลับไลเซนซิ่ง
จาก 253 ทีมสมัครเล่น ที่ส่งบู๊รวมทุกภาค กว่าจะผ่าด่านเข้าสู่ลีกอาชีพถือว่าสาหัส หลายทีมเต็งอกหัก ต้องรอวันเริ่มใหม่อีกครั้งในฤดูกาลหน้า และเมื่อวันที่ 4-5 มิถุนายนที่ผ่านมา คือวันชี้ชะตาของทีม
บทสรุปสุดท้ายของทีมเลื่อนชั้นจากทีมสมัครเล่น “อเมเจอร์ลีก” ก้าวสู่ลีกอาชีพ “ไทยลีก3” เป็นอย่างไรไปติดตามกัน
โซนภาคเหนือ
ขึ้นสู่ไทยลีก 2 “อุทัยธานี เอฟซี” ตกชั้น “นอร์ทเทิร์นตาก ยูไนเต็ด”
เลื่อนชั้น โรงสีแม่ใจธนะโชติวัฒน์ และ กงไกรลาศ ยูไนเต็ด
ประเดิมด้วย 2 ทีมจากโซนเหนือ น้องใหม่เอี่ยมอ่องคือ แชมป์ตอนบน โรงสีแม่ใจธนะโชติวัฒน์ และแชมป์ตอนล่าง กงไกรลาศ ยูไนเต็ด
ต้องยอมรับว่าเหนือความคาดหมายสำหรับ 2 ทีมน้องใหม่จาก โซนเหนือ เพราะทีมเต็งอย่าง พิจิตร ยูไนเต็ด รวมถึงอดีตทีมดังจากเมืองสี่แคว “ปากน้ำโพ เอฟซี” และ “นครสวรรค์ เอฟซี” กลับหลุดโผไม่ติดมาแม้แต่ทีมเดียว
โดยเฉพาะ “กงไกรลาศ ยูไนเต็ด” ทีมจากสุโขทัย ที่อยู่ในกลุ่มตอนล่างทีมถือว่าโหดหินทั้ง “ท่าซุง เอฟซี” ทีมในเครือของ “อุทัยธานี เอฟซี” ที่ได้เลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2 รวมถึงทีมเต็ง พิจิตร ยูไนเต็ด, นครสวรรค์ เอฟซี และ ปากน้ำโพ เอฟซี
ผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม ลงสนาม 2 นัดไม่เสียประตู โดยการชนะ สวรรคโลก ยูไนเต็ด 4-0 และชนะ บึงสามพัน เอฟซี 2-0 ผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม รอบน็อกเอาท์ยันเสมอ นครสวรรค์ เอฟซี 0-0 ก่อนชนะจุดโทษ 5-4 เข้าชิงชนะเลิศเสมอ พิจิตร ยูไนเต็ด ในเวลา 2-2 ก่อนดวลชนะจุดโทษ 5-4 ก้าวสู่ไทยลีก 3 แบบทะลุเป้าหมาย
“สันติ พลาพล” ประธานสโมสรยอมรับว่าเกินคาด สำหรับสังเวียนเหย้าในไทยลีก 3 คาดว่าเป็นสนามมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสุโขทัย รังเหย้าเดิมของ “สุโขทัย เอฟซี”
ในขณะที่ทีม “โรงสีแม่ใจธนะโชติวัฒน์” อินทรีย์แห่งขุนเขา ทีมจาก จ.พะเยา จากการนำของ“เสี่ยโหน่ง” อนันตศักดิ์ ศรีสมัย สมญานาม “นักบุญแห่งล้านนา” ที่สร้างทีมด้วยหัวใจด้วยการคัดเด็กเยาวชนมากินอยู่ฟรีเข้าสู่สโมสรเป็นบันไดปูทางสู่ฟุตบอลอาชีพ หลังจาก “พะเยา” ห่างหายไปจากสารบบ ภายหลังจากยุติทีม “พะเยา เอฟซี” ไปหลายฤดูกาลก่อน
รอบคัดเลือก กลุ่มตอนบนถือว่าไม่ธรรมดา แต่ “โรงสีแม่ใจธนะโชติวัฒน์” ผ่าด่านสำคัญเอาชนะ นอร์ทเทิร์น ฟุตบอลคลับ และ สิงห์เหนือ เชียงใหม่ ก่อนไปตัดกับ เขลางค์ ยูไนเต็ด ทีมแข็งจากลำปาง และเสมอกันในเวลา 2-2 ก่อนดวลชนะโทษ 3-1 ขึ้นสู่ทำเนียบไทยลีก 3 ได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม แม้จะคว้าโควต้าขึ้นสู่ “ไทยลีก3” ได้สำเร็จทั้งสองทีม แต่ทั้ง โรงสีแม่ใจธนะโชติวัฒน์ และ กงไกรลาศ ยูไนเต็ด ยังต้องชิงแชมป์โซนภาคเหนือที่สนามพิจิตร สเตเดี้ยม เมื่อ 4 มิ.ย. ผลคือ กงไกรลาศ ยูไนเต็ด ชนะในการดวลจุดโทษ 4-2 หลังจากเสมอในเวลา 1-1
สำหรับ โรงสีแม่ใจธนะโชติวัฒน์ หลังเลื่อนชั้นเตรียมเปลี่ยนมาใช้ชื่อ “พะเยา ยูไนเต็ด” เพื่อเป็นทีมฟุตบอลของชาวเมืองพะเยา หลังไม่มีทีมฟุตบอลให้เชียร์มาหลายปี
โซนภาคใต้
ขึ้นสู่ไทยลีก 2 “กระบี่ เอฟซี” และ “นครศรี ยูไนเต็ด” ตกชั้น “สุราษฎร์ธานี เอฟซี”
เลื่อนชั้น “เวียงสระ ซิตี้” และ “เมืองตรัง ยูไนเต็ด”
หันมาดูอีกโซนที่ได้โควต้าขึ้นสู่ “ไทยลีก3” จำนวน 2 ทีม เช่นเดียวกับภาคเหนือคือ โซนใต้
ทีมเต็งของใต้ที่จะก้าวสู่ลีกอาชีพคือ “เอ็มเฮช นครศรี เอฟซี” ทีมจากเมืองคอนที่ย้ายไปจับมือ”สุราษฏร์ธานี ซิตี้” ในนาม “เอ็มเฮช ปักษ์ใต้” เมื่อฤดูกาลก่อนโดยมี “ใหญ่ นิลวงษ์” นักเตะระดับไทยลีกมาเป็นผู้เล่นและโค้ช รวมถึงทีม “สงขลาอัสลาน ทีเอสยู” ที่เตรียมพร้อมนานนับปี
สุดท้ายกลับเป็น “เวียงสระ ซิตี้” และ “เมืองตรัง ยูไนเต็ด” ที่ทะลุคว้าตั๋วไปแบบเหนือความคาดหมาย
โดยเฉพาะ “เวียงสระ ซิตี้” ทีมอคาเดมี่ของ “สุราษฏร์ธานี ซิตี้” พันธมิตรเดิมของ “เอ็มเอช ปักษ์ใต้ฯ” กลับทำผลงานยอดเยี่ยม แม้เคยส่งสัญญานมาแล้วในการส่งทีมเข้าร่วมในศึกฟุตบอลถ้วย โดยใช้ชื่อ “เอ็มเฮช นครศรี เอฟซี” ลงดวลกับทีมไทยลีก “เมืองทอง ยูไนเต็ด” อย่างสนุกสูสี
สุดท้าย “เวียงสระ ซิตี้” จะกลายร่างเป็น “เอ็มเฮช นครศรี เอฟซี” โดยมี “มลฑล ณ นคร” นักธุรกิจอสังหาในนาม “มายโฮม” เป็นหัวเรือใหญ่เพื่อลุย “ไทยลีก3” โดยใช้สนามมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เป็นรังเหย้า
ในขณะที่ “อาชาอันดามัน” เมืองตรัง ยูไนเต็ด ถือว่าไม่ธรรมดา เมื่อมี “รอยเตอร์ โมเรย์ร่า” กุนซือมากประสบการณ์ และ”เสน่ห์ ทองศักดิ์” อดีตผู้บริหาร “ตรัง เอฟซี” มานั่งเเท่นเป็นประธาน
สำหรับเกมในนัดชิงโซนใต้ “เมืองตรัง ยูไนเต็ด” เฉือนชนะ “เวียงสระ ซิตี้” 2-1 โดยได้ประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษหลังเสมอใน 90 นาที 1-1
โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ตกชั้น “มาแชร์ ชัยภูมิ เอฟซี” เลื่อนชั้น “ราษีไศล ยูไนเต็ด”
การเข้ามาสู่ลีกอาชีพของ “ราษีไศล ยูไนเต็ด” ถือว่าไม่ธรรมดาและเรียกได้ว่า คาดไม่ถึง
ก่อนหน้านี้ทีมระดับ “ไทยลีก3” ของเมืองนครลำดวน ยึดครองพื้นที่อยู่ 2 ทีม คือ “ศรีสะเกษ เอฟซี” ทีมรองแชมป์ฤดูกาลที่แล้ว และ “ศรีสะเกษ ยูไนเต็ด”
และในอเมเจอร์ลีก โซนอีสานแห่เข้าร่วมคัดเลือกถึง 68 ทีม นับว่ามากที่สุดของประเทศ เพื่อคัดเอาเพียงทีมเดียวมาแทนที่ “มาแชร์ ชัยภูมิ เอฟซี” ที่ตกชั้น
ทีมเต็งที่หมายมั่นปั้นมือจะเลื่อนชั้นเพราะเตรียมพร้อมมานานและมีศักยภาพรวมถึงชื่อเสียงเก่าคือ “ร้อยเอ็ด พีบี ยูไนเต็ด”
แต่ “ราชาวานร” ราษีไศล ยูไนเต็ด ทีมนักศึกษาจาก วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการราษีไศล หักปากกาเซียน ผ่านทีมเต็งในรอบแบ่งกลุ่มสอย ศรีสะเกษ ซิตี้ ร่วง ก่อนเข้าสู่รอบตัดเชือกเอาชนะ อำนาจเจริญ ซิตี้
มาถึงเกมสำคัญในรอบชิงแชมป์โซนอีสานใต้ ด้วยการล้ม “ร้อยเอ็ด พีบี ยูไนเต็ด” สุดมันส์ 3-2 ก่อนถล่ม “ร้อยเอ็ด 2018” แบบไร้ข้อกังขา 3-0 เมื่อ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา คว้าแชมป์โซนภาคอีสาน ก้าวขึ้นสู่ลีกอาชีพอย่างเต็มภาคภูมิ
โซนภาคตะวันออก
ตกชั้น “กองเรือยุทธการ” เลื่อนชั้น “กองเรือรบ ยูไนเต็ด”
ภายหลัง “กองเรือยุทธการ” ถูกถล่มจมลงสู่ลีกล่าง ทีมลูกหนังจากกองทัพเรือไทยสานงานต่อเพื่อขึ้นสู่ลีกอาชีพอีกครั้ง พร้อมจัดตั้งทีม “กองเรือรบ ยูไนเต็ด” โดยมีอดีตกุนซือราชนาวี “วิริยะ เผ่าพันธ์” คุมทีม
ชื่อใหม่แต่นักเตะไม่ใหม่แถมมากด้วยประสบการณ์ อาทิ ชินกร ดีสาย นายทวารจอมเก๋า หรือผู้เล่นอย่าง มานะชัย สุโพธิ์
คู่แข่งสำคัญในโซนนี้ยังมีทีมคุณภาพอย่าง “พัทยา ยูไนเต็ด 2022” รวมถึง “ปราจีน ซิตี้” และ “แปดริ้ว ซิตี้”
สุดท้าย “กองเรือรบ ยูไนเต็ด” ปราบคู่แข่งจนคว้าแชมป์ตอนล่าง ต้องมารเจอแชมป์ตอนบน “แปดริ้ว ซิตี้” เพื่อคัดเหลือหนึ่งเดียวในภาคตะวันออก
ผลการแข่งขัดในเกมชี้ชะตา เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ปรากฏว่า “กองเรือรบ ยูไนเต็ด” เอาชนะ “แปดริ้ว ซิตี้” แบบไร้ข้อสงสัย 2-0 โดยได้สองประตูในครึ่งหลัง เลื่อนชั้นสู่ลีกอาชีพได้สำเร็จตามเป้า
โซนตะวันตก
ตกชั้น“บางปะอิน อยุธยา เอฟซี” เลื่อนชั้น “กาญจนบุรี ซิตี้”
ณ เมืองกาญจน์ ยังมีทีมไทยลีก 2 อย่าง “เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด” และไทยลีก 3 “สิงห์ระฆังทอง กาญจนบุรี เอฟซี” ก่อนจะมีทีมน้องใหม่ให้เชียร์เพิ่มอีกทีมคือ “กาญจนบุรี ซิตี้”
สำหรับ กาญจนบุรี ซิตี้ ทีมฉายา “เสือดำ” หากมองให้ลึกจัดว่าไม่ธรรมดา มีการเตรียมทีมกันมานาน และมีกุนซือระดับ “โค้ชตั้ม” นิรุจน์ สุระเสียง อดีตนักเตะทีมชาติไทย เป็นกุนซือใหญ่ และได้ “สุเชาว์ นุชนุ่ม” มาเป็นที่ปรึกษาอคาเดมี่ปั้นนักเตะเยาวชนขึ้นสู่ทีม โดยมี “อนันต์ แท้นทิม” นั่งตำแหน่งประธานสโมสร
และเป็นไปตามเป้าหมาย รอบชิงชนะเลิศตอนล่างเอาชนะ “หนองแคโปลิศ เอฟซี” 1-0 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศกับ ตอนบน “ลพบุรี ซิตี้” ที่ผ่าน “ปากช่อง เอสซีเค” มาด้วยสกอร์ 3-0
ในนัดชิงชนะเลิศโซนตะวันตก การพบทีมเมืองลิง “ลพบุรี ซิตี้” ถือว่าเป็นด่านสำคัญ เพราะคู่แข่งเป็นทีมยักษ์ที่หลับไปนาน “ลพบุรี” อดีตจังหวัดที่ยิ่งใหญ่ในเชิงลูกหนังหวังกลับมาอีกครั้ง
แต่สุดท้าย “ลิง” ก็พ่าย “เสือ” เมื่อ กาญจนบุรี ซิตี้ เอาชนะ ลพบุริ ซิตี้ ในนัดชิงชนะเลิศ 1-01 เมื่ออาทิตย์ที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมาขึ้นสู่ไทยลีก 3 สำเร็จ
โซนกรุงเทพและปริมณฑล
ตกชั้น “เกร็กคู สายไหม ยูไนเต็ด” เลื่อนชั้น “สมุทรสาคร ซิตี้”
“พยัคฆ์สาคร” สมุทรสาคร ซิตี้ ก้าวสู่ลีกอาชีพได้อย่างงดงามแม้มีการเตรียมทีมและก่อนตั้งเพียงแค่ปีเศษ โดยมี “วิชัย ถีระปราโมทย์” เป็นผู้จัดการทีม และ “สุพจน์ งดงาม” ทำหน้าทีมโค้ช แต่ได้รับการสนับสนุนเต็มที่จากผู้ใหญ่ในจังหวัด โดยเฉพาะ ส.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ที่ควักเงินหลักแสนอัดฉีดทีมเพื่อสานฝันความสำเร็จ
เพียงเพื่อให้ชาวมหาชัยได้มีทีมฟุตบอลเชียร์อีกครั้ง หลังจาก “ปลาทูคะนอง” สมุทรสาคร เอฟซี ต้องปิดตำนานด้วยสารพัดปัญหาที่เข้ามารุมเร้า หลังจากโลดแล่นในไทยลีกมาเป็นเวลากว่าสิบปี ในขณะที่ “ทวีวัฒนา สมุทรสาคร ยูไนเต็ด” ย้ายไปตั้งฐานแฟนบอลในเมืองหลวง ทำให้ “สมุทรสาคร” ไม่มีสโมสรฟุตบอลในจังหวัด
นำเลี้ยงดีฟอร์มดี เป้าหมายชัดเจน “สมุทรสาคร ซิตี้” จึงเดินหน้าคว้าชัย โดยเกมชี้ชะตานัดสำคัญคือการเอาชนะ “โดม เอฟซี” จากการดวลจุดโทษ 6-5 หลังเสมอในเวลา 0-0 เป็นแชมป์ตอนล่าง ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ กับแชมป์ตอนบน “เอฟซี บางเสาธง” ที่เอาชนะโทษ “บางกะปิ ลีออง สปิริต สปอร์ต” สูสี 3-1 หลังเสมอในเวลา 1-1
นัดชิงชนะเลิศทีมปริมณฑล “สมุทรสาคร ซิตี้” เฉือนเอาชนะทีมกรุงเทพ”เอฟซี บางเสาธง” 1-0 คว้าแชมป์โซนกรุงเทพและปริมณฑลขึ้นสู่ไทยลีก 3 ตามเป้าหมาย
ถึงตอนนี้จากลีกสมัครเล่น “อเมเจอร์ลีก” 8 ทีม ก้าวอีกระดับขึ้นชั้นสู่ลีกอาชีพ “ไทยลีก3” แต่ภาระกิจยังไม่จบ เพื่อมาแข่งขันคัดหาทีมแชมป์เพียงหนึ่งเดียว ในรอบชิงชนะเลิศของประเทศ โดยกำหนดแข่งขันระหว่างวันที่ 11 มิ.ย. และจบลง 23 ก.ค.
แชมป์จาก 6 โซน แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกคือ สมุทรสาคร ซิตี้, กาญจนบุรี ซิตี้ และ เมืองตรัง ยูไนเต็ด ส่วนอีกกลุ่ม คือ กงไกรลาศ ยูไนเต็ด, ราษีไศล ยูไนเต็ด และ กองเรือรบ ยูไนเต็ด แชมป์กลุ่มจะเข้าชิงชนะเลิศ
การเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 3 คือเป้ายหมาย แชมป์อเมเจอร์ลีกคือโบนัส จากนี้ติดตามกันต่อไปว่า 8 ทีมจากลีกสมัครเล่นเหล่านี้ จะไปได้ไกลเพียงใดในเส้นทางลูกหนังอาชีพของประเทศ