เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม
“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 28 ธันวาคม 2564 ตอน ถอดรหัสโพล!! แคนดิเดตนายกฯ ใครจริง ใครปลอม
ตลอดปีนี้ มีผลโพลของสำนักโพลต่างๆ ได้ทำโพลวัดความนิยม “ผู้นำ” และ “บุคคลทางการเมือง” บ่อยครั้งมาก โดยหลายครั้งโพลก็ถูกตั้งคำถามจากสังคมถึงผลโพลที่ออกมา เพราะมีทั้ง “ตรงใจ” และ “ไม่ถูกใจ” ที่สำคัญหลายครั้งโพลถูกตั้งคำถามถึง “ความน่าเชื่อถือ” ด้วย
ล่าสุด “นิด้าโพล” ได้สรุปการทำโพล 4 ไตรมาส ปี 2564 โดยถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยรอบล่าสุดได้ทำการสำรวจ ธ.ค.2564 พบว่า ร้อยละ 36.54 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ // รองลงมา ร้อยละ 16.93 เป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
// ร้อยละ 10.74 เป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ // ร้อยละ 10.55 เป็น น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊งค์) ชินวัตร ซึ่งในกรณี “อุ๊งอิ๊งค์” พึ่งเข้ามาพรรคเพื่อไทย เมื่อ 28ต.ค.2564 ในตำแหน่ง ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม // และ ร้อยละ 5.51 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
.
ทั้งนี้หากนำเอาสถิติ 4 ครั้งที่ “นิด้าโพล” ตั้งคำถามเดียวกันนี้ พบว่า คะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ ลดลงอย่างมาก จากครั้งแรก มี.ค.64 อยู่ที่ร้อยละ 28.79 ลดลงมาเหลือร้อยละ 16.93 ส่วน “ทิม-พิธา” อยู่ในระดับประคองตัวไว้ได้ อยู่ที่ร้อยละ 6.26 ถึง 10.74
ความน่าสนใจอยู่ที่คะแนนลำดับแรกว่า “ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้” นั้น เพิ่มขึ้นมา จากร้อยละ 30 มาถึง 36 ในสิ้นปีนี้ ทำให้บรรดานักการเมืองหวัง “แบ่งเค้ก” จากคะแนนส่วนนี้จำนวนมาก
จุดที่น่าประหลาดใจ และไปคนละทางกับ “นิด้าโพล” คือ โพลของ “ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสื่อสารการเมืองและสังคม” ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ได้เปิดเผย ผลสํารวจความคิดเห็นของประชาชนในกรุงเทพมหานคร
เกี่ยวกับ “ประชาชนในกรุงเทพมหานครต้องการผู้นํา ที่มีคุณลักษณะแบบใดเพื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปและคุณลักษณะพรรคการเมืองแบบใดที่ผู้นําสังกัดหรือได้รับการเสนอชื่อเพื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป” โดยดําเนินการสํารวจ ระหว่างวันที่ 28 ต.ค. ถึง 2 พ.ย. 2564 พบว่า
.
คุณลักษณะความเป็นผู้นําของผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ลำดับที่ 1 คือ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” มีคะแนนสูงสุดร้อยบะ 54.24 รองลงมือคือ พล.อ.ประยุทธ์ ร้อยละ 52.99 คุณหญิงสุดารัตน์ ร้อยละ 38.12% และ “อุ๊งอิ๊งค์”แพทองธาร มีคะแนนน้อยที่สุด ร้อยละ 8.87
รวมถึงประเด็นอื่นๆ ชื่อของ “จุรินทร์” ยังคงเป็นลำดับที่ 1 หลายข้อ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมา
ถึงขั้นทำให้ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ ที่ปรึกษาศูนย์วิจัยและพัฒนาการสื่อสารการเมืองและสังคม ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ประกาศลาออกจากตำแหน่ง เพื่อรักษาภาพลักษณ์ขององค์กรที่เคยอยู่มานานถึง 36 ปี และจุดยืนของความสุจริต ความเที่ยงตรงทางวิชาการที่ยึดมั่นมาตลอด
.
ทำให้ฉายาที่สื่อทำเนียบรัฐบาลตั้งให้กับ “จุรินทร์” คือ “นายกฯบางโพล” โดยให้เหตุผลว่ามีเพียงโพลบางสำนักเท่านั้น ที่ต้องการให้ “จุรินทร์” ดำรงตำแหน่งนายกฯคนต่อไป เปรียบเป็นนายกฯแค่ “บางโพล” ไม่ใช่ทุกโพล
มากันที่ “ซุปเปอร์โพล” ได้เปิดเผยถึงผลสำรวจ “บุคคลแห่งปี” ที่ช่วยเหลือแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนและปัญหาสังคม หนี้นอกระบบ ที่ดินทำกิน แหล่งน้ำ และอื่น ๆ ลดความเดือดร้อนปัญหาปากท้องของประชาชน
พบ 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ร้อยละ 40.0 อันดับที่ 2 คือ จุรินทร์ ร้อยละ 36.4 อันดับที่ 3 คือ “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” รมว.คลัง ร้อยละ 19.3
หากดูจากโพลทั้งหมดนี้ ในซีกฝั่ง “ผู้มีอำนาจ” ยังประคองระดับ “หัวตาราง” ไว้ได้ แต่กลับคะแนนลดลง ส่วนซีกฝ่ายค้านมาแรงขึ้น ด้วยคะแนนที่เพิ่มขึ้น แต่ทั้ง 2 ซีก ก็มีส่วนที่ “คะแนนตัดกันเอง” ดังนั้น “ผลโพล” ก็สามารถสะท้อนการเมืองในปัจจุบันได้บ้าง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
เพราะปัจจัยในการ “ตัดสินใจ” ของแต่ละคนนั้นต่างกันและซับซ้อนเกินกว่าคำถามโพล รวมทั้งการสุ่มสำรวจไปยังพื้นที่ใดด้วย
ดังนั้นสุดท้ายแล้วต้องตัดสินผ่าน “คูหาเลือกตั้ง” เพราะจะกี่สำนักโพล ก็ไม่สู้ “สำนักโพลประชาชน” คำถามก็มีอยู่ว่า เลือกตั้งจะมาเมื่อไหร่