ชลบุรี เอฟซี เปิดชลบุรี สเตเดี้ยม เสมอกับ สุโขทัย เอฟซี 0-0 แบ่งกันไปทีมละแต้ม ส่งผลให้ “ฉลามชล” มีเพิ่มเป็น 31 คะแนน รอดตกชั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งส่ง “ค้างคาวไฟ” ต้องไปลุ้นหนีตกชั้นกับ สุพรรณบุรี เอฟซี ต่อไป
ฟุตบอลไทยลีก 2020
วันเสาร์ที่ 20 มีนาคม 2564
ชลบุรี เอฟซี 0-0 สุโขทัย เอฟซี
การแข่งขันฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาล2020-2021 ที่สนามชลบุรี สเตเดี้ยม เวลา 19.00 น. เป็นเกมคู่ระหว่าง “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 12 ของตาราง ที่มี 30 แต้ม จาก 28 นัด เปิดบ้านรับมือ “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี ทีมอันดับ 13 ของตาราง ที่มี 27 แต้ม จาก 28 นัด โดยชลบุรี เอฟซี ชี้ชะตารอดตกชั้นหากคว้าได้แต้มเดียวจากเกมนี้จะรอดทันที ส่วนสุโขทัย เอฟซี ยังต้องการ 3 แต้มเพื่อหนีตกชั้นเช่นกัน
รายชื่อคณะผู้ตัดสิน : ชัยฤกษ์ งามสม ,ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 : อภิชิต โนพวน ,ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 : วรพงษ์ ประเสริฐศรี ,ผู้ตัดสินที่ 4 : อธิวัฒน์ ลีลาโล้ ,ผู้ช่วยผู้ตัดสินวิดีโอ 1 : วิศเวศ สังข์นคร ,ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 : ศรีสุวรรณ บุญนำ ,ผู้ควบคุมการแข่งขัน : พีระพล ภูอุดม ,ผู้ประเมินผู้ตัดสิน : แพรว สีหมากสุก
เริ่มเกม น.6 เจ้าถิ่นฉลามชล เกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ กาฟาร์ ดูโรซินมี่ โยนบอลจากสุดเส้นหลังฝั่งขวามาที่เสาสอง จูเนียร์ เอลด์สตอล ขึ้นโขกเต็มๆ บอลกำลังพุ่งเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ผู้เล่นสุโขทัย เอฟซี ยืนโหม่งสกัดบนเส้นออกไปได้ทันแบบฉิวเฉียดเลยทีเดียว
น.21 นพนนท์ คชพลายุกต์ แบ็คขวาชลบุรี เอฟซี เติมเกมขึ้นมาก่อนจะได้โอกาสซัดลูกใบไม้ร่วงบริเวณหน้ากรอบเขตโทษเยื้องทางขวา บอลพุ่งก่อนจะย้อยลงเฉียดเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งถ้าเข้าจะเป็นประตูที่สวยงามเลยทันที
น.34 กาฟาร์ ดูโรซินมี่ กองหน้าของเจ้าถิ่นฉลามชล ส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายไปแล้ว ทว่าผู้ตัดสิน ชัยฤกษ์ งามสม ได้รับสัญญาณจากห้องควบคุม VAR ก่อนจะขอไปดูจอเพื่อเช็คจังหวะนี้ด้วยตัวเอง ก่อนจะตัดสินไม่ให้ประตูแก่ ชลบุรี เอฟซี เพราะเมื่อดูจากภาพช้าก่อนที่ กาฟาร์ ดูโรซินมี่ จะหลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ เหมือนใช้มือไปดึง นุกูลกิจ ครุฑใหญ่ ก่อน
กรรมการทดเวลาเจ็บในครึ่งแรก 7 นาที โดยช่วงเวลาที่เหลือยังไม่มีใครทำอะไรกันได้ก่อนจบครึ่งแรก ชลบุรี เอฟซี ยังคงเปิดบ้านเสมออยู่กับ สุโขทัย เอฟซี 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง น.58 ปิยะราษฏร์ ลาจังหรีด แนวรับสุโขทัย เอฟซี ไปใช้มือดึงตัวของ กาฟาร์ ดูโรซินมี่ ล้มลงในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสิน ชัยฤกษ์ งามสม เป่าให้เป็นลูกจุดโทษแก่เจ้าถิ่นฉลามชลทันที อย่างไรก็ตามได้รับสัญญาณจากห้องควบคุม VAR ในจังหวะนี้ กระทั่งในเวลาสักพักจึงขอเลือกวิ่งเข้ามาดูจอด้วยตัวเอง และสุดท้ายจึงเปลี่ยนคำตัดสินไม่ให้เป็นลูกจุดโทษกับชลบุรี เอฟซี ทำเอาแฟนบอลเจ้าถิ่นไม่พอใจกันทั้งสนาม
อย่างไรก็ตามตั้งแต่ออกสตาร์ตในครึ่งเวลาหลัง ทั้งสองทีมไม่ค่อยเปิดหน้าแลกกันเท่าที่ควร ต่างฝ่ายต่างพยายามเน้นครอบครองบอลเป็นมากกว่า ทำให้จังหวะจบสกอร์แบบจะแจ้งแทบไม่มีเลย
จนถึง น.82 โอกาสจบสกอร์ใกล้เคียงที่จะเป็นประตูที่สุดเมื่อ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ พาบอลตะลุยเข้ามาในเขตโทษก่อนจะยิงเล่นทาง แต่ทาง พีระพงษ์ เรือนนินทร์ นายทวารสุโขทัย เอฟซี ยังพุ่งปัดทิ้งออกหลังได้ทัน
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่มกระทั่งจบเกม ชลบุรี เอฟซี เปิดบ้านเสมอ สุโขทัย เอฟซี ไปแบบไร้สกอร์ 0-0 ทำให้สถานการณ์ตอนนี้ทัพ “ฉลามชล” รอดตกชั้นอย่างเป็นทางการ ขณะที่พลพรรค “ค้างคาวไฟ” มีเพิ่มเป็น 28 แต้ม ห่างจากสุพรรณบุรี เอฟซี 4 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 1 นัด ทว่าหากเกมนักตกค้างในวันพุธที่ 24 มี.ค.64 สุพรรณบุรี เปิดบ้านแพ้ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด จะทำให้พวกเขารอดตกชั้นและจะส่งสุพรรณบุรี เอฟซี ร่วงตกชั้นทันที โดยไม่ต้องลุ้นถึงเกมนัดสุดท้ายที่ทั้งคู่จะต้องเจอกัน
สำหรับโปรแกรมนัดสุดท้ายของฤดูกาลทั้งสองทีมจะลงเตะในเวลา 18.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 28 มี.ค.64 โดย ชลบุรี เอฟซี จะบุกเยือน ระยอง เอฟซี ที่สนามกีฬากลาง จ.ระยอง ส่วนสุโขทัย เอฟซี จะบุกเยือน สุพรรณบุรี เอฟซี ที่สนามกีฬากลาง จ.สุพรรณบุรี
‘บิ๊กบอล’ ศศิศ สิงห์โตทอง ปลื้มสุดทีมรอดตกชั้น ยันปีหน้าจะไม่ต้องมาลุ้นอะไรแบบนี้อีก
“นัทพงษ์ ทอดสนิท” บอก1แต้มนี้ สุดล้ำค่ามากมาย ขอโฟกัสแมตช์พบกับสุพรรณบุรี
รายชื่อผู้เล่นและคะแนนความสามารถ
ชลบุรี เอฟซี : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล (ผู้รักษาประตู) 6, นพนนท์ คชพลายุกต์ 6 (พิทักษ์ พิมแป้ แทน น.88), กฤษดา กาแมน 7, รังสรรค์ วิรุฬห์ศรี 6.5, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ 6.5, จูเนียร์ เอลด์สตอล 7.5, สหรัฐ สนธิสวัสดิ์ 5 (เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ 5.5 แทน น.54), กาฟาร์ ดูโรซินมี่ 5.5 (เจย์ซี่ จอห์น แทน น.70), สัมพันธ์ เกษี 5.5 (ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว แทน น.70), เอลิอันโดร 6 (เสฏฐวุฒิ วงศ์สาย แทน น.88), เรนาโต้ เคลิช 6.5
สุโขทัย เอฟซี : พีระพงษ์ เรือนนินทร์ (ผู้รักษาประตู) 6, โจชัว กรอมเมน 6.5, นุกูลกิจ ครุฑใหญ่ 7, จอห์น บาจโจ้ 6.5 (ศาสนพงษ์ วัฒยุชูติกุล แทน น.90+2), ปิยะราษฏร์ ลาจังหรีด 6.5, อนุศักดิ์ ใจเพชร 4 (ณัฐวุธ เจริญบุตร 6 แทน น.28), จุง เมียง โอ 7, โย ซัง แฮ 4 (ลีออน พิชญ เจมส์ 6 แทน น.34), สันติภาพ ราษฏร์นิยม 6.5, เอกสิทธิ์ ฉาวบุตร 6.5, อิ๊บสัน เมโล่ 6.5
แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : จูเนียร์ เอลด์สตอล (ชลบุรี เอฟซี)