11 จังหวัดยังติดโควิดเกิน 500 ราย ยอดติดเชื้อวันนี้ยังสูง 2.46 หมื่นราย ตาย 81 ราย กทม.ยังตายสูง 11 ราย พบเด็กเล็กเสียชีวิตต่อเนื่อง วันนี้พบวัย 9 เดือนดับอีก
เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด 19 ประจำวันว่า ประเทศไทยยังพบผู้ติดเชื้อใหม่เกินหมื่นรายเป็นวันที่ 52 ในการระบาดระลอกโอมิครอน โดยวันนี้พบติดเชื้อรายใหม่ 24,635 ราย สะสม 3,553,720 ราย หายป่วย 25,753 ราย สะสม 3,278,103 ราย เสียชีวิต 81 ราย สะสม 24,890 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 250,737 ราย อยู่ใน รพ. 62,274 ราย อยู่ รพ.สนาม HI CI 188,463 ราย มีอาการหนัก 1,718 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 675 ราย อัตราครองเตียงสีเหลืองสีแดงอยู่ที่ 27.8%
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 81 ราย มาจาก 40 จังหวัด ได้แก่ กทม. 11 ราย , สมุทรสาคร 6 ราย , สุโขทัย นครศรีธรรมราช ราชบุรี จังหวัดละ 4 ราย , สกลนคร พิษณุโลก พระนครศรีอยุธยา สระแก้ว จังหวัดละ 3 ราย , สมุทรปราการ นครปฐม สุรินทร์ ศรีสะเกษ เชียงราย สุราษฎร์ธานี สตูล ปัตตานี นครสวรรค์ จังหวัดละ 2 ราย และ ร้อยเอ็ด นครราชสีมา อุดรธานี หนิงคาย อำนาจเจริญ ลำปาง กำแพงเพชร ภูเก็ต กระบี่ พังงา ระนอง ตรัง พัทลุง ยะลา อุทัยธานี สมุทรสงคราม สระบุรี ชลบุรี ตราด กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และเพชรบุรี จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 46 ราย หญิง 35 ราย อายุ 9 เดือน – 94 ปี เฉลี่ย 75 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 94%
ส่วน 10 จังหวัดที่มีรายงานติดเชื้อรายใหม่สูงสุดคือ 1.กทม. 3,248 ราย 2.ชลบุรี 1,328 ราย 3.นครศรีธรรมราช 1,328 ราย 4.สงขลา 973 ราย 5.สมุทรสาคร 872 ราย 6.สมุทรปราการ 865 ราย 7.นครปฐม 676 ราย 8.นนทบุรี 539 ราย 9.ฉะเชิงเทรา 526 ราย และ 10.ระยอง และอุบลราชธานี จังหวัดละ 514 ราย
สำหรับจังหวัดติดเชื้อถึง 100 รายขึ้นไปยังมีอีก 46 จังหวัด คือ ร้อยเอ็ด 499 ราย , บุรีรัมย์ 491 ราย , ราชบุรี 488 ราย , ขอนแก่น 458 ราย , สมุทรสงคราม 431 ราย , พัทลุง 404 ราย , นครราชสีมา 402 ราย , เชียงใหม่ 385 ราย , ประจบคีรีขันธ์ 380 ราย , กาญจนบุรี 374 ราย , อุดรธานี 374 ราย , สุพรรณบุรี 344 ราย , พระนครศรีอยุธยา 334 ราย , อ่างทอง 314 ราย , นครสวรรค์ 309 ราย , สกลนคร 292 ราย , ปทุมธานี 289 ราย , พิษณุโลก 278 ราย , สุรินทร์ 275 ราย , ภูเก็ต 258 ราย , กาฬสินธุ์ 253 ราย , กำแพงเพชร 248 ราย , จันทบุรี 242 ราย , หนองคาย 232 ราย , มหาสารคาม 219 ราย , เพชรบุรี 202 ราย , สุราษฎร์ธานี 200 ราย
สระแก้ว 195 ราย , ตาก 193 ราย , ระนอง 189 ราย , ศรีสะเกษ 185 ราย , เลย 182 ราย , ปราจีนบุรี 179 ราย , กระบี่ 175 ราย , ลำปาง 174 ราย , ชุมพร 173 ราย , สระบุรี 148 ราย , ลพบุรี 142 ราย , สิงห์บุรี 140 ราย , ตราด 136 ราย , สุโขทัย 131 ราย , ชัยภูมิ 130 ราย , ตรัง 127 ราย , ปัตตานี 121 ราย , สตูล 117 ราย และหนองบัวลำภู 102 ราย ทั้งนี้ มีจังหวัดติดเชื้อหลักหน่วยมีจังหวัดเดียว คือ ลำพูน 2 ราย
ส่วนการติดเชื้อมาจากเรือนจำพบ 31 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 34 ราย ใน 16 ประเทศ โดยมาจากกัมพูชามากที่สุด 7 ราย มาเลเซีย 6 ราย อังกฤษ 4 ราย ที่เหลือติดเชื้อประเทศละ 1-3 ราย โดยเข้าระบบ Test&Go 16 ราย แซนด์บ็อกซ์ 3 ราย กักตัว 13 ราย และลักลอบเข้าประเทศ 2 ราย มาจากเมียนมา สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1-27 มี.ค. 2565 จำนวน 236,858 ราย รายงานติดเชื้อ 1,397 ราย คิดเป็น 0.59% แบ่งเป็นระบบ Test&Go 212,883 ราย ติดเชื้อ 935 ราย คิดเป็น 0.44% แซนด์บ็อกซ์ 20,856 ราย ติดเชื้อ 357 ราย คิดเป็น 1.76% และกักตัว 3,666 ราย ติดเชื้อ 105 ราย คิดเป็น 2.86%
การฉีดวัคซีนโควิด 19 วันที่ 27 มี.ค. ฉีดได้ 110,982 โดส สะสมรวม 128,760,443 โดส เป็นเข็มแรก 55,321,487 ราย คิดเป็น 79.5% ของประชากร เข็มสอง 50,247,181 ราย คิดเป็น 72.2% ของประชากร และเข็มสาม 23,191,775 ราย คิดเป็น 33.3% ของประชากร