จัดสุดยิ่งใหญ่อลังการ ! พิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือ “ผ้าขาวม้าท้องถิ่นหัตถศิลป์ไทย” ปีที่ 5 ชูแนวคิด”ทีมผ้าขาวม้าไทย” รวมพลังคนรุ่นใหม่ สร้างสรรค์อัตลักษณ์ผ้าขาวม้าทอมือ ต่อยอดตลาดชุมชน สู่ตลาดสากล พร้อมการเดินแบบแฟชั่นโชว์ชุดกีฬาสุดเอ็กซ์คลูซีฟครั้งแรกของนักเตะจาก 4 สโมสรชั่นนำของเมืองไทยทั้ง โปลิศ เทโร เอฟซี, สุโขทัย เอฟซี, สุพรรณบุรี เอฟซี และราชบุรี มิตรผล เอฟซี โดยมีบรรดาแข้งดังร่วมเดินแบบสุดเท่ นำโดย “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย, “โค้ชอ้น” รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค, วันชัย จารุนงคราญ, อนนต์ สมากร, ยาง จุน อา, โดมินิค ตัน, ไอแซค ฮอนนี่, ลีออน เจมส์, นุกูลกิจ ครุฑใหญ่, สมปอง สอแหลบ, สุพรรณ ทองสงค์ ฯลฯ
เมื่อวันอังคารที่ 23 พ.ย.64 ที่ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ชั้น 5 เวลา 17.00 น. ได้มีการจัดงานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือสนับสนุนการดำเนินงานโครงการ “ผ้าขาวม้าท้องถิ่นหัตถศิลป์ไทย” ประจำปี 2564 ระหว่างภาคีเครือข่ายสถาบันการศึกษาของโครงการ Educational Instituted Support Activity (EISA) กับบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี วิสหากิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) จำกัด โดยโครงการผ้าขาวม้าท้องถิ่น หัตถศิลป์ไทย ภายใต้งาน “ผ้าขาวม้าทอใจ 2564” ชูแนวคิด “ทีมผ้าขาวม้าไทยจากเส้นใยสู่สนามแข่ง” มีกําหนดจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 21-26 พ.ย.64 โดยเป็นการรวมพลังของทุกภาคส่วน ให้พัฒนาเป็นทีมผ้าขาวม้าที่แข็งแกร่งและยั่งยืนเป็นหนึ่งเดียว
ภายในงานยังมีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ Creative Young Designers เพื่อส่งเสริมให้ เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างชุมชนผู้ผลิตผ้าขาวม้าทอมือ ด้วยการรวมพลังคนรุ่นใหม่ มาร่วมสร้างสรรค์อัตลักษณ์ ผ้าขาวม้าทอมือ โดยมีการบูรณาการความรู้ระหว่างคณะด้านการออกแบบและคณะด้านการบริหารธุรกิจในการช่วย พัฒนาผ้าขาวม้า ซึ่งได้ต่อยอดขยายพื้นที่การทํางานเป็น 15 ชุมชนทั่วประเทศ ประกอบด้วย วิสาหกิจชุมชน ผ้าทอนาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง, วิสาหกิจชุมชนกลุ่มสืบสานต่อผ้าทอมือบ้านผือ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี, วิสาหกิจชุมชน กลุ่มทอผ้าบ้านหนองเครือบุญ อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา, วิสาหกิจชุมชนกลุ่มสตรีทอผ้าบ้านรางจิก อ.ชะอํา จ.เพชรบุรี, วิสาหกิจชุมชนปลูกหม่อนเลี้ยงไหมทอผ้าไหมผ้าฝ้ายบ้านเสารีก อ.พนา จ.อํานาจเจริญ, กลุ่มพัฒนาสตรีบ้าน สวนปอ อ.ปทุมรัตต์ จ.ร้อยเอ็ด, กลุ่มทอผ้าพื้นเมืองบ้านนาคําไฮ อ.เมือง จ.หนองบังลําภู, กลุ่มทอผ้าพื้นเมืองบ้านสะง้อ อ.เมือง จ.บึงกาฬ, กลุ่มสตรีทอผ้าบ้านเขาเต่า อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์, กลุ่มทอผ้าบ้านห้วยทราย อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่, กลุ่มอาชีพผ้าฝ้ายอําพัน อ.ฮอด จ.เชียงใหม่, กลุ่มอาชีพทอผ้าบ้านล่องมุด อ.เทพา จ.สงขลา, กลุ่มปลูกหม่อนเลี้ยงไหมบ้านโนนชาด อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์, วิมพ์ดีไซน์ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี, และกลุ่มแม่บ้าน เกษตรกร บ้านคึมมะอุ-สวนหม่อน อ.บัวลาย จ.นครราชสีมา
โดย 15 ชุมชนดังกล่าวเป็นการร่วมมือกับ 13 มหาวิทยาลัยโครงการ Eisa (Education Institute Support Activity) ประกอบด้วย ม.ธุรกิจบัณฑิตย์, ม.ราชภัฏสวนสุนันทา, ม.กรุงเทพ, ม.รังสิต, ม.ธรรมศาสตร์, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ม.ศิลปากร, ม.ศรีนครินทรวิโรฒ, ม.หอการค้าไทย, ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร, ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง และ 3 สโมสรฟุตบอลของเมืองไทย ประกอบด้วย สโมสรอยุธยา ยูไนเต็ด สโมสรนครปฐม ยูไนเต็ด และสโมสรพีที ประจวบ เอฟซี
ขณะที่ไฮไลท์สำคัญของงานนี้เป็นการแสดงชุด “The Evolution of Pakaoma” ผลงานการออกแบบของโครงการ CYD’63 โดยภาควิชาการออกแบบแฟชั่น คณะศิลปกรรมศาสตร์ ม.กรุงเทพ พร้อมกับพิเศษสุดกับครั้งแรกของการเดินแบบแฟชั่นโชว์ชุดกีฬาผ้าขาวม้าสุดเท่ของนักเตะจาก 4 สโมสรดัง โปลิศ เทโร เอฟซี, สุโขทัย เอฟซี, สุพรรณบุรี เอฟซี และราชบุรี มิตรผล เอฟซี นําโดย “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย, วันชัย จารุนงคราญ, อนนต์ สมากร, ยาง จุน อา, โดมินิค ตัน, ไอแซค ฮอนนี่, “โค้ชอ้น” รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค, ลีออน เจมส์, นุกูลกิจ ครุฑใหญ่, สมปอง สอแหลบ, สุพรรณ ทองสงค์ แพคทริก เดย์โต้, รัชนาท อรัญญไพโรจน์, จักรพันธ์ พรใส, อุกฤษณ์ วงศ์มีมา ฯลฯ
คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) และประธาน คณะกรรมการโครงการผ้าขาวม้าท้องถิ่นหัตถศิลป์ไทย กล่าวว่า “มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นโครงการผ้าขาวม้า ท้องถิ่นหัตถศิลป์ไทยได้ดําเนินงานมาอย่างต่อเนื่องจนก้าวเข้าสู่ปี ที่ 5 โดยมี บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) จํากัด เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนการทํางานร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม และภาคประชาชน รวมถึงเครือข่ายชุมชนผู้ผลิตผ้าขาวม้าทอมือทั่วประเทศ และต้อง ขอขอบพระคุณ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ภาคีเครือข่ายภาคเอกชน รวมถึงสถาบันการศึกษาชั้นนํา ของประเทศ ที่ได้ร่วมกันผลักดันให้เกิดการพัฒนาทักษะอาชีพให้กับชุมชนผู้ผลิต และร่วมสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ผ้าขาวม้าทอมือ จนสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนที่เข้าร่วมโครงการมาอย่างต่อเนื่อง นับเป็นจํานวนเงินกว่า 173 ล้านบาท การส่งมอบผลงานการออกแบบของนักศึกษา ทั้ง 6 สถาบันภายใต้กิจกรรม Creative Young Designer ให้กับชุมชนผู้ผลิตผ้าขาวม้าที่เพิ่งผ่านพ้นไปนั้น นับเป็นนิมิตหมายอันดีอีกครั้งหนึ่งในการสร้างความร่วมแรงร่วมใจ ระหว่างนักศึกษาในเมืองและชุมชนในชนบท”
“ซึ่งตรงกับช่ือและวัตถุประสงค์ของงานน้ี คือ “ผ้าขาวม้าทอใจ” ที่ต้องการ ให้ผ้าขาวม้ามีบทบาทในการเชื่อมโยงคนไทยของเราเข้าด้วยกันทั้ง การเชื่อมโยงระหว่างคนเมืองกับคนในชนบท และ การสร้างความผูกพันระหว่างคนรุ่นปู่ย่าตายายกับคนรุ่นใหม่ ผมมีความหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การทํากิจกรรมของ นักศึกษาในปีที่ผ่านมานอกจากจะเป็นการช่วยกระตุ้นชุมชนในการคิดค้นพัฒนารูปแบบสินค้าใหม่ๆแล้ว ยังเป็นการ สร้างเสริมประสบการณ์และการเรียนรู้ถึงวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นให้กับนักศึกษาด้วย กระผมมีความยินดีเป็น อย่างยิ่งที่ได้เห็นกิจกรรม Creative Young Designer ยังคงดําเนินงานอย่างต่อเนื่องและขยายขอบข่ายความร่วมมือ ไปสู่ 15 ชุมชนทั่วประเทศ ผ่านความร่วมมือกับ 13 สถาบันอุดมศึกษา และ 3 สโมสรฟุตบอล รวมถึงมีการขยาย การบูรณาการความรู้ทั้งในด้านการออกแบบและการบริหารธุรกิจเข้าด้วยกัน ตลอดจนมีการพัฒนาด้านการตลาดและ การจัดจําหน่ายสินค้าผ้าขาวม้าผ่านช่องทางและกิจกรรมต่างๆของสโมสรฟุตบอล และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพลังร่วมที่เรา ได้แสดงออกร่วมกันในวันนี้จะช่วยหนุนนําการดําเนินโครงการผ้าขาวม้าท้องถิ่นหัตถศิลป์ไทยและการพัฒนาชุมชน ผ้าขาวม้าทอมือของเราต่อไปในอนาคตเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนตามแนวทาง “แรงบันดาลใจจากทุกคน เพื่อชุมชนท่ียั่งยืน”
ด้านคุณต้องใจ ธนะชานันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีวิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า “นับจากปี 2559 จนถึงปัจจุบัน เราได้บูรณาการการทํางานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อแก้ปัญหาในเรื่อง ของคุณภาพการผลิต และด้านการตลาด ผลักดันจนเกิดการพัฒนาและแปรรูปผ้าขาวม้าชุมชนที่หลากหลาย ควบคู่ไป กับการจัดประกวดลายผ้าขาวม้า และผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้าที่สะท้อนอัตลักษณ์ของชุมชนอย่างชัดเจน จนเป็นท่ีรู้จักและ ถูกจับตามองในวงกว้าง และที่สําคัญโครงการ Creative Young Designers เราได้เห็นความคิดสร้างสรรค์ของน้องๆ นักศึกษา ในการนําผ้าขาวม้าสร้างสรรค์เป็นช้ินงานต่างๆ ซึ่งน้องๆ มีความคิดสร้างสรรค์มีเทคนิคใหม่ๆ และยังสามารถ ขยายกรอบความคิดออกไปได้อีกมากมาย สิ่งสําคัญที่เราต้องการให้เกิดขึ้นจากการขับเคลื่อนโครงการฯ คือ ชุมชนมีความเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้ เกิดเครือข่ายการทํางานของกลุ่มทอผ้าของชุมชนภายในจังหวัด และข้ามไปยัง จังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ
มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการแปรรูปผ้าขาวม้าทอมือให้มีคุณภาพ และมีความ หลากหลาย สร้างรายได้ให้แก่กลุ่มทอผ้าอย่างยั่งยืน ขอขอบพระคุณผู้สนับสนุนหลักของโครงการฯ ทั้งกรมการพัฒนา ชุมชน กระทรวงมหาดไทย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) และ ภาคีทุกภาคส่วน ที่ได้กรุณาให้ความสนับสนุน โครงการนี้มาเป็นอย่างดีย่ิงตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้โครงการฯ ดําเนินงานมาได้บรรลุผลสําเร็จ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสร้างความรับรู้ในกลุ่มผู้บริโภคและคนรุ่นใหม่ การให้องค์ความรู้ด้านต่างๆกับชุมชนผู้ผลิต การพัฒนา สินค้าจากผ้าขาวม้าทอมือ และการนําผ้าขาวม้าไทยไปสู่วงการแฟชั่นระดับนานาชาติ ทั้งนี้เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายหลักของ โครงการ คือ การสร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน”
สำหรับท่านใดที่สนใจสามารถมาเลือกช้อปผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้าทอมือของชุมชนผู้ผลิตส่งตรงจากเชียงใหม่, นครราชสีมา, ร้อยเอ็ด, สุโขทัย, ราชบุรี, สุพรรณบุรี และปุทมธานี พร้อมกับชมผลงานผู้ชนะการประกวดลายผ้าขาวม้า “นวอัตลักษณ์” และผลงานการประกวด ภาพถ่ายผ้าขาวม้าผ่าน IG “Wow From Home” ความงดงามของ “ผ้าขาวม้าลายขอ” ได้ระหว่างวันนี้จนถึงวันที่ 26 พ.ย.64 ที่ชั้น G ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. หรือสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ท่ีเฟซบุ๊กแฟนเพจ PakaomaThailand
Add friend ที่ @Siamsport