ทั่วไป
07 ต.ค. 2564 เวลา 9:47 น.
“ปภ.” อัพเดต “น้ำท่วม” 7 ต.ค. กระทบ 2.99 แสนครัวเรือน ยังมีสถานการณ์อีก 16 จังหวัด 70 อำเภอ เหตุอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ เร่งระบายน้ำ
“ปภ.” อัพเดต “น้ำท่วม” 7 ต.ค. กระทบ 2.99 แสนครัวเรือน ยังมีสถานการณ์อีก 16 จังหวัด 70 อำเภอ เหตุอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ เร่งระบายน้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2564 เวลา 09.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุ “เตี้ยนหมู่” ในช่วงวันที่ 23 ก.ย. –7ต.ค. 64 เกิดอุทกภัยใน 32 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนครปฐม รวม 210 อำเภอ 1,133 ตำบล7,628 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 299,704 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 9 ราย สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 16 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 16 จังหวัด ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือประชาชนต่อไป
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงาน จากอิทธิพลพายุ “เตี้ยนหมู่” ซึ่งเคลื่อนตามแนวร่องมรสุมเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. 64 – ปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ 32 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนครปฐม รวม รวม 210 อำเภอ 1,133 ตำบล7,628 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 299,704 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 9 ราย (ลพบุรี 6 ราย เพชรบูรณ์ 2 ราย ชัยนาท 1 ราย) สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 16 จังหวัด (เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พิจิตร เพชรบูรณ์ ตาก กำแพงเพชร บุรีรัมย์ นครปฐม ยโสธร สุรินทร์ เลย ศรีสะเกษ สระแก้ว จันทบุรี ปราจีนบุรี)
ยังคงมีสถานการณ์ 16 จังหวัด รวม 70 อำเภอ 380 ตำบล 1,923 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 99,342 ครัวเรือน ดังนี้
1. สุโขทัย ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสุโขทัย อำเภอศรีสำโรง และอำเภอคีรีมาศ ระดับน้ำลดลง
2. พิษณุโลก ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวังทอง อำเภอพรหมพิราม และอำเภอบางระกำ ระดับน้ำลดลง
3. ขอนแก่น ยังคงน้ำท่วมขังในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแวงน้อย อำเภอแวงใหญ่ อำเภอโคกโพธิ์ชัย อำเภอชนบท อำเภอมัญจาคีรี อำเภอโนนศิลา อำเภอพระยืน อำเภอบ้านแฮด และอำเภอบ้านไผ่ และแม่น้ำชีเอ่อท่วมสองฝั่งในพื้นที่บ้านท่าพระเนาว์ ตำบลท่าพระ อำเภอเมืองขอนแก่น ภาพรวมยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
4. ชัยภูมิ น้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอคอนสวรรค์ ระดับน้ำลดลง
5. นครราชสีมา น้ำท่วมขังในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโนนสูง อำเภอโนนไทย อำเภอเมืองนครราชสีมา อำเภอจักราช อำเภอคง อำเภอแก้งสนามนาง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอพิมาย อำเภอโนนแดง และอำเภอชุมพวง ระดับน้ำลดลง
6. อุบลราชธานี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และอำเภอวารินชำราบ ระดับน้ำลดลง จังหวัดได้จัดตั้งจุดอพยพ 16 จุด รวม 505 ครัวเรือน 2,004 คน
7. นครสวรรค์ ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอพยุหะคีรี และอำเภอโกรกพระ ระดับน้ำลดลง
8. อุทัยธานี น้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอเมืองอุทัยธานี ระดับน้ำลดลง จังหวัดจัดตั้งสูนย์พักพิงชั่วคราว 5 จุด ผู้อพยพ 126 คน
9. ชัยนาท ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอสรรพยา ระดับน้ำทรงตัว
10. ลพบุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี อำเภอชัยบาดาล อำเภอบ้านหมี่ อำเภอพัฒนานิคม และอำเภอโคกสำโรง ระดับน้ำลดลง
11. สระบุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวังม่วง อำเภอแก่งคอย อำเภอเมืองสระบุรี อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเสาไห้ อำเภอหนองโดน อำเภอบ้านหมอ อำเภอดอนพุด อำเภอหนองแซง และอำเภอหนองแค ระดับน้ำทรงตัว จังหวัดได้จัดตั้งจุดอพยพ 6 จุด รวม 290 ครัวเรือน
12. สุพรรณบุรี ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางปลาม้า และอำเภอสองพี่น้อง ระดับน้ำทรงตัว
13. สิงห์บุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภออินทร์บุรี อำเภอค่ายบางระจัน อำเภอเมืองสิงห์บุรี และอำเภอพรหมบุรี ระดับน้ำทรงตัว
14. อ่างทอง น้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอ่างทอง อำเภอไชโย อำเภอป่าโมก อำเภอวิเศษชัยชาญ และอำเภอสามโก้ ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
15. พระนครศรีอยุธยา น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 9 ได้แก่ อำเภอผักไห่ อำเภอเสนา อำเภอบางบาล อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน อำเภอท่าเรือ อำเภอนครหลวง และอำเภอบางปะหัน ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และคลองโผงเผงซึ่งอยู่นอกคันกั้นน้ำ ระดับน้ำทรงตัว
16. ปทุมธานี น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก ระดับน้ำลดลง
ภาพรวมสถานการณ์ปัจจุบันหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ฯ สำหรับประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง