4 เม.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มที่บ้านหนองกระทุ่ม หมู่ 9 ต.ไกรใน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ทำให้บ้านเรือนเสียหายหลายหลัง ชาวบ้านต้องหนีตายจ้าละหวั่น และยังมีเสาไฟฟ้าหัก ต้นไม้ใหญ่โค่นล้มขวางถนน โดยช่วงเกิดเหตุพายุยกหลังคาบ้านจนฝ้าเพดานถล่ม ผู้เป็นพ่อรีบวิ่งกอดลูกสาววัย 5 ขวบ เอาตัวเองเป็นโล่ปกป้องลูก
นายสรณ์สิริ ไกรกิจราษฎร์ อายุ 23 ปี ชาวบ้านหนองกระทุ่ม ต.ไกรใน เล่านาทีระทึกให้ฟังว่า พายุเข้ามาช่วงประมาณ 2 ทุ่ม ตนเองกับภรรยาและลูกสาวอายุ 5 ขวบ กำลังอยู่ในบ้าน ลมหมุนเร็วและแรงมาก ตอนนั้นลูกสาวอยู่บนที่นอนคนเดียว เห็นท่าไม่ดีจะหนีไปไหนก็ไม่ได้ ก็เลยรีบวิ่งไปกอดลูกสาวเอาตัวบังไว้ พร้อมใช้ผ้าห่มคลุมโปงทั้งภรรยาด้วย 3 คนก้มหมอบนาน 20 นาที แผ่นฝ้าเพดานก็ล่วงลงมากระแทกหลัง โชคดีไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก แต่หลังคาบ้านหายทั้งหลัง รวมเสียหายไม่ต่ำกว่า 150,000 บาท
นางจริน สังจันทร์ อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 166 หมู่ 9 ต.ไกรใน บอกว่า ช่วงเกิดเหตุในบ้านมีกันอยู่ 4 คน คือ ตนกับแม่และหลานสาวอีก 2 คน พายุแรงน่ากลัวมาก เหมือนแผ่นดินไหวบ้านจะถล่ม ไฟฟ้าก็ดับ มืดก็มืด ไม่รู้จะทำไง เลยต้องกอดเสาเรือนไม่ให้ตัวลอยปลิวไปพร้อมกับหลังคา ขณะที่ลูกสาวซึ่งเป็นครูอยู่บ้านพักต่างอำเภอ หลังทราบข่าวบ้านพังก็รีบมาหาทันที พร้อมพูดปลอบใจแม่ทั้งน้ำตา ว่า “ทุกคนปลอดภัยก็ดีแล้ว บ้านเดี๋ยวเราสร้างใหม่ได้”
นายขวัญ สำลี อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 185/2 หมู่ 9 ต.ไกรใน บอกว่า “เจ้าปูน” สุนัขเพศเมีย สีดำ ที่เลี้ยงไว้ในบ้านก็ตกใจกลัวพายุสุดขีด รีบวิ่งกระโดดมุดเข้ามาหาในมุ้ง แล้วก็เห่าพายุจนตอนนี้เสียงแหบไปแล้ว ด้านนางวันดี สงสัย อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 16/2 หมู่ 9 บอกว่า เพิ่งผ่าตัดเนื้องอกในสมองมาได้ 3 เดือน ก็มาเจอพายุพัดบ้านพังอีก เสียหายไม่ต่ำกว่า 150,000 บาท รู้สึกเครียดมาก
นายโกเมศ มุกเพ็ชร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ต.ไกรใน บอกว่า จากการสำรวจและรับแจ้งเบื้องต้น พบมีบ้านพังเสียหายทั้งหมด 128 หลังคาเรือน น่าเห็นใจชาวบ้านมาก เพราะตั้งแต่เกิดมาอาศัยอยู่กันในหมู่บ้านแห่งนี้ ไม่เคยเจอพายุพัดรุนแรง ถึงขั้นบ้านเรือนพังย่อยยับแบบนี้มาก่อน
ภูเบศวร์ ฝ้ายเทศ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุโขทัย