พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ ผกก.สภ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ได้รับการติดต่อขอมอบตัว จากนายอนุรักษ์ พิพิธทอง อายุ 28 ปี ชาว อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย หลังถูกแจ้งความจาก สาวคู่กรณี ว่า กลางดึกคืนวันที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา ตนและน้องสาวอายุ 17 ปี พร้อมญาติอีก 2 คน มาช่วยแม่ขายของภายในงานประจำปีวัดพระปรางค์ หมู่ 6 ต.ศรีสัชนาลัย อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ขากลับได้ขับรถยนต์ออกมาจากบริเวณงาน ได้ประมาณ 2 กม. มีผู้ขับขี่รถจักรยานยนตื ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับพุ่งมาจากถนนข้างทาง ตนเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุ จึงบีบแตรให้สัญญาณ ปรากฏว่าผู้ชายคนขับขี่รถจักรยานยนต์กลับขับปาดหน้ารถ และตะโกนด่า ให้ของลับแล้วขับรถตามมา จากนั้นยิงปืนข่มขู่ จึงรีบขับรถหนี น้องสาวจึงใช้มือถือถ่ายคลิป และโทร.191 แจ้งเจ้าหน้าที่ขอความช่วยเหลือ ซึ่งคนร้ายยังคงขี่รถจักรยานยนต์ตามมาปาดหน้าแล้วโชว์ปืน บังคับให้จอด แต่ตนไม่หยุดรถ และขับหนีระยะทางกว่า 3 กม. จนเข้ามาในเขต อ.สวรรคโลก จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจมาช่วยเหลือ ขับรถนำทางพาพวงตนกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย รุ่งขึ้นจึงพร้อมด้วยมารดาเข้ามาแจ้งความที่ สภ.ศรีสัชนาลัย
ด้าน พ.ต.อ.อนุวัฒน์ ผกก.สภ.ศรีสัชนาลัย เปิดเผยว่า หลังได้รับรายงานเหตุ และดูคลิปเหตุการณ์แล้ว จึงสั่งการให้ชุดสืบสวน ติดตามดูกล้องวงจรปิดตามเส้นทางดังกล่าว และหาเบาะแสในพื้นที่จนทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือนายอนุรักษ์ จึงรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมขอหมายจับ และให้กำลังส่วนหนึ่งประกบตัวไว้ จนผู้ก่อเหตุทนแรงกดดันไม่ไหวติดต่อขอมอบตัว และต้องการขอโทษผู้เสียหายเนื่องจากสำนึกผิด จึงแจ้งผู้เสียหายทราบ ด้านนายอนุรักษ์ ทันทีที่พบ นางน้อย (นามสมมุติ) อายุ 51ปี แม่ผู้เสียหาย ได้ยกมือไหว้ขอโทษ ที่กระทำการลงไปเพราะความเครียด ไม่ได้มุ่งหมายจะทำร้ายใครแต่อย่างใด ซึ่งนางน้อย ได้ว่ากล่าวตำหนิ พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
นายอนุรักษ์ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนทะเลาะกับแฟนสาว และได้ดื่มเหล้า จากนั้นจึงขี่รถ จักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า X-Max สีเทา ออกมาจากบ้าน กำลังจะขึ้นถนนใหญ่ แต่ถูกรถยนต์คู่กรณีบีบแตรใส่ ด้วยความโมโห และตนเองได้พกปืนขนาด 9 มม. อยู่กับตัวด้วย จึงขับรถตามไปก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้ง4 ข้อหา มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่ติดป้ายทะเบียน อย่างไรก็ตามจะได้สอบสวนเพิ่มเติมหากเข้าข่ายความผิดใด จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีต่อไป