- เหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง กองทัพเรือระบุเร่งค้นหาอีก 31 นาย ย้ำยังไม่พบผู้เสียชีวิต ‘ก้าวไกล’ ถามทร.เรือสุโขทัยจมเพราะตั้งงบซื้อเรือดำน้ำจนขาดงบซ่อมบำรุงเรือหรือไม่ ‘โรม’ จี้นายกฯ ให้การช่วยเหลือทหารเรือที่สูญหายเร่งด่วน ตั้งเป็นวาระสำคัญของชาติ ‘ประยุทธ์’ ระบุ กำลังช่วยอยู่
- โฆษกกองทัพเรือ ยันผู้เสียชีวิตที่พบไม่ใช่ทหารเรือ แต่เป็นลูกเรือสินค้าที่อับปางเพราะคลื่นแรงเหมือนกัน
19 ธ.ค.2565 จากกรณีที่เรือหลวงสุโขทัยที่อยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 19 ไมล์ทะเล ประสบอุบัติเหตุคลื่นลมแรง จนทำให้มีกระแสน้ำเข้าเรือเป็นจำนวนมาก และได้จมลงใต้ทะเลแล้วในช่วงดึกของวันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา
ทร.เร่งค้นหาอีก 31 นาย ย้ำยังไม่พบผู้เสียชีวิต
เฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘กองทัพเรือ Royal Thai Navy’ รายงานว่า วันนี้ (19 ธ.ค.)เวลา 15.15 น. พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เดินทางมาเยี่ยมกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย นย.และ สอ.รฝ. ที่ ศูนย์พักพิงของ อบต.หาดแม่รำพึง และส่งกำลังพล จำนวน 54 นาย ที่ปลอดภัยแล้วกลับไปยัง กองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อม ย้ำว่ายังไม่พบผู้เสียชีวิต ตามที่มีกระแสข่าวมาก่อนหน้านี้ ขณะนี้ ช่วยเหลือมาแล้ว 75 นาย ยังเร่งค้นหาอีก 31 นาย โดยต้องต้องเร่งค้นหาแข่งกับเวลา ก่อนฟ้าจะมืดแล้วไม่มีแสงสว่างซึ่งจะเป็นอุปสรรคในการใช้เฮลิคอปเตอร์ค้นหา
ส่วนคลื่นลมจะยังแรงไปจนถึงวันพรุ่งนี้ ซึ่งก็เป็นอุปสรรคเช่นกัน ซึ่งการค้นหา จะเน้นดูทิศทางของคลื่นที่มีทิศทางพัดเข้าหาฝั่ง ก็จะเน้นการค้นหาตามเกาะต่างๆด้วย รวมถึงโดยรอบพื้นที่ของจุดที่เรือจม และจะเร่งตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้น้ำเข้า เพราะเป็นเหตุผลทำให้เรือจม ไฟฟ้าดับ
สำหรับการกู้เรือ เพจ ‘กองทัพเรือ Royal Thai Navy’ ระบุว่า ต้องปฏิบัติการค้นหาให้เสร็จสิ้นก่อน และจะต้องตรวจดูสภาพใต้น้ำโดยผู้เชี่ยวชาญ เพราะน้ำลึก 40 เมตร และวางแผนการกู้อีกครั้ง
สำนักข่าวไทย รายงานด้วยว่า พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า จากการที่มีการนำเสนอข่าวว่าพบกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย 10 นาย เสียชีวิต 1 นาย และอยู่ในสภาพอิดโรย 9 นาย ตรวจสอบแล้วยืนยันว่าไม่ใช่กำลังพลเรือหลวงสุโขทัย แต่เป็นลูกเรือจากเรือสินค้าอนุภูมิ ซึ่งอับปางลงเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมาจากเหตุคลื่นลมแรงเช่นกัน
ก้าวไกล ถามทร.เรือสุโขทัยจมเพราะตั้งงบซื้อเรือดำน้ำจนขาดงบซ่อมบำรุงเรือหรือไม่
ขณะที่ ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานต่อสื่อมวลว่า พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค และ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนี้ ว่าเหตุการณ์นี้ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรือรบหลักของกองทัพเรือไทยที่จมด้วยสภาพอากาศหรือเหตุขัดข้องทางเทคนิคมาก่อน เรือหลวงที่จมไปหลายลำก่อนหน้าล้วนถูกโจมตีจากอริราชศัตรู หรือถูกจมโดยกองทัพเองจากความขัดแย้งทางการเมือง
พิจารณ์ระบุว่า ความเสียหายจากการสูญเสียครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงชีวิตของทหารประจำเรือ หรือมูลค่าเรือที่อยู่ในหลักหลายพันล้านบาท แต่ยังหมายถึงการสูญเสียศักยภาพการป้องกันประเทศด้วย เพราะเรือที่มีขีดความสามารถในระดับเดียวกับเรือสุโขทัย เหลือเพียง 4 ลำเท่านั้น
พิจารณ์กล่าวอีกด้วยว่า ในฐานะที่ตนติดตามงบประมาณกองทัพ โดยเฉพาะโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือมาโดยตลอด ขอตั้งข้อสังเกตว่า เหตุที่เรือสุโขทัยจมลงจากพายุ เป็นเพราะความผิดพลาดของลูกเรือ ผู้บังคับการเรือ หรือจากความผิดปกติของระบบบังคับการต่างๆของเรือ เช่น เครื่องยนต์ เครื่องสูบน้ำ เป็นต้น เพราะหากเกิดจากสาเหตุหลัง ย่อมหมายความว่ากระบวนการบำรุงรักษาของกองทัพเรือมีปัญหา ซึ่งตนไม่แปลกใจ เพราะหลายปีที่ผ่านมาในการจัดทำงบประมาณ กองทัพเรือจัดสรรงบจำนวนมากเพื่อจัดซื้อเรือดำน้ำ, โครงการต่างๆที่สนับสนุนเรือดำน้ำ และยุทโธปกรณ์อื่นๆ จนต้องลดงบประมาณในส่วนอื่นๆลง
นอกจากนั้นในส่วนของงบประมาณในการซ่อมบำรุงและส่งกำลังบำรุง ตนพบว่าการเบิกจ่ายล่าช้า ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ทั้งปีงบประมาณ 2563-64 แต่กลับมีการโอนเปลี่ยนแปลงงบ ไปซื้อยุทโธปกรณ์อื่นที่ไม่ได้ของบผ่านสภา ไม่ว่าจะเป็น ยานเกราะสะเทินน้ำสะเทินบก, ยานเกราะ 4ล้อ เป็นต้น
พิจารณ์ทิ้งท้ายว่า ตนรอแถลงการณ์จากกองทัพเรือ ว่าจะมีความคืบหน้าในการหาสาเหตุของเรือจมครั้งนี้อย่างไร และในฐานะกรรมาธิการการทหาร จะติดตามเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด เพื่อให้งบประมาณของประเทศถูกใช้เพื่อพัฒนาศักยภาพการป้องกันประเทศและประสิทธิภาพการรบของกองทัพไทยอย่างแท้จริง ไม่ใช่การใช้งบเพื่อหาเงินทอน
โรม จี้นายกฯ ให้การช่วยเหลือทหารเรือที่สูญหายเร่งด่วน ตั้งเป็นวาระสำคัญของชาติ
โดย รังสิมันต์ โรม โฆษกและ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนี้ด้วย ว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และคงจะต้องมีการสืบสวนถึงสาเหตุอย่างละเอียดกันต่อไปว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
แต่สิ่งที่สำคัญคือ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าทหารเรืออีก 31 คนได้รับการช่วยเหลือ หรือมีความคืบหน้าอย่างไรแล้วบ้าง ซึ่งเท่ากับว่าพวกเขายังต้องรอคอยการช่วงเหลืออยู่กลางทะเล
ทุกนาทีที่ผ่านไป โอกาสที่ทหารเรือเหล่านี้จะมีชีวิตรอดกลับมาได้จะมีน้อยลงไปเรื่อยๆ รัฐบาลจึงต้องทำงานแข่งกับเวลา ผมอยากเห็นทหารเรือทุกคนได้กลับบ้านไปพบครอบครัว ไม่อยากให้เกิดความสูญเสียเกิดขึ้น
สิ่งที่รัฐบาลต้องทำตอนนี้ คือ การระดมทุกสรรพกำลัง จากทุกหน่วยงานที่มีความพร้อมทั้งด้านเครื่อง และกำลัง เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะมีสวัสดิภาพต่อไป
รังสิมันต์กล่าวเพิ่มเติมว่าถึงเวลานี้ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องนั่งหัวโต๊ะและเรียกทุกหน่วยมารายงาน และติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด นี่คือวาระสำคัญที่ตนคิดว่า เราทุกคนต้องเอาใจช่วยให้ทุกชีวิตปลอดภัยให้เร็วที่สุด
สุดท้ายนี้ ตนขอให้กำลังใจกับทุกครอบครัวที่รอคอยลูกหลานได้กลับบ้าน ผมหวังว่าพวกเขาทุกคนจะปลอดภัย
‘ประยุทธ์’ ระบุ กำลังช่วยอยู่
ช่วงสายวันนี้ (19 ธ.ค.) สำนักข่าวไทย รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ครั้งที่ 3/2565 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวสั้นๆ ถึงการให้ความช่วยเหลือ กำลังพลว่า “กำลังช่วยอยู่”