ไอคอนสยาม ชวนสนุกกับกิจกรรม “ICONSIAM SUMMER KITE PLAYGROUND” เพลิดเพลินกับการเล่นว่าว และชมว่าวนานาชาติ ว่าวแฟนซี พร้อมชมนิทรรศการว่าวไทย 4 ภาค ตั้งแต่วันนี้ – 24 เมษายน 2565 ณ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม
กระทรวงวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา และสมาคมกีฬาว่าวไทย จุฬา-ปักเป้า ร่วมสืบสานการละเล่นว่าว อันเป็นมรดกไทยและประเพณีไทยจัดกิจกรรม “ICONSIAM SUMMER KITE PLAYGROUND” เนรมิต ริเวอร์ พาร์ค ให้เป็นลานเล่นว่าวขนาดใหญ่ จัดเต็มกิจกรรมการแสดงว่าวทุกสัปดาห์ พร้อมชวนชมนิทรรศการเล่าขานตำนานว่าวไทย 4 ภาค ตื่นตาตื่นใจกับขบวนพาเหรดว่าวแฟนซียักษ์ ว่าวนานาชาติ ว่าวหมึกยักษ์ติดไฟ LED ยาวที่สุดในไทย และสนุกกับลานอนุรักษ์สืบสาน ประดิษฐ์ว่าวด้วยตนเอง พร้อมเรียนรู้เทคนิคการบินว่าวจากผู้เชี่ยวชาญแชมป์การเล่นว่าว ตั้งแต่วันนี้ – 24 เมษายน 2565 ณ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม พร้อมปฏิบัติตามมาตรการ Covid-Free Setting เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ยกระดับความสะอาดตามมาตรฐานความปลอดภัย ด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety and Health Administration : SHA Plus เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้บริการ
ภายในงานพบกับลานกิจกรรม 4 โซน ได้แก่
โซนที่ 1 ลานอนุรักษ์สืบสาน พบนิทรรศการเล่าขานตำนานว่าวไทยให้ได้สัมผัสและเรียนรู้ความเป็นมาของว่าว 4 ภาค ซึ่งจัดทำขึ้นเป็นพิเศษมีขนาดใหญ่และได้รับการออกแบบลวดลายบนว่าวโดยศิลปินและผู้เชี่ยวชาญด้านการบินว่าวมาให้ได้ชมกัน ได้แก่
ว่าวจุฬา ภาคกลาง ที่มีความโดดเด่นด้วยลักษณะเป็น 5 แฉก จากการประกอบเป็นโครงด้วยไม้ไผ่ 5 อัน ซึ่งต้องใช้ไม้ไผ่สีสุกที่มีคุณสมบัติมีสปริงในตัว ส่วนขาว่าว 2 ขาด้านล่าง เรียกว่า ขากบ ซึ่งหลังมีการดึงด้ายจนเป็นตารางจะใช้กระดาษสาปิดทับลงบนโครง และสำหรับว่าวจุฬาที่จะนำมาจัดแสดงนี้ลวดลายบนว่าวออกแบบโดย “เก่ง ธชย” ศิลปินหนุ่มที่หลงใหลในความเป็นไทย มาถ่ายทอดลวดลายของยักษ์อันสื่อถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเก่ง โดยออกแบบด้วยลายพายยักษ์ ลายพิเศษของเก่ง เป็นการนำกราฟฟิกทรงเลขาคณิตที่มีความแข็งแรงผสานเข้ากับความอ่อนช้อยของลายไทยได้อย่างลงตัว
ว่าวพระร่วง ภาคเหนือ เป็นว่าวที่มีลักษณะสง่างามเหมือนมนุษย์ โดยมีแขนและขาซึ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจน รวมถึงลักษณะลายว่าวโดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยรูปปลาตะเพียนโบราณ ที่มาจากบันทึกหลักศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำแหง ที่ว่า “บ้านเมืองกูอุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลาในนามีข้าว” การฝึกทำว่าวพระร่วง จึงถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของสุโขทัย และเป็นที่มาในการออกแบบโดย “อ.ธีรพล เถื่อนแพ” ด้วยการนำแรงบันดาลใจจากงานประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ จ.สุโขทัย ที่มีความงดงามและอลังการ พร้อมแต่งแต้มลวดลายอันมีเอกลักษณ์อย่างลายเครื่องสังคโลก และโบราณสถานลงไปบนว่าว เพื่อให้เห็นความยิ่งใหญ่ของสุโขทัยธานีจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
ว่าวสองห้อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือที่รู้จักในภาคกลางว่า “ว่าวดุ๊ยดุ่ย” มีรูปร่างคล้ายกับว่าวจุฬา แต่บริเวณขากบเป็นรูปเดียวกันกับปีก ส่วนบนของหัวไม้ที่เป็นอกยื่นออกมาเป็นเดือยในลักษณะสี่เหลี่ยมเพื่อใช้สำหรับเสียบที่ทำเสียง โดยเรียกว่าสนู ส่วนตอนล่างมีไม้ขวางสำหรับผูกหาง ซึ่งมีสองหางเพื่อช่วยในการทรงตัวเมื่อลอยขึ้นไปอยู่ในอากาศ ว่าวสองห้องที่นำมาจัดแสดงนี้ออกแบบโดย “ณรงค์ อุไรแข” ครูว่าวภาคอีสานจากบุรีรัมย์ ดีกรีแชมป์ 7 สมัยจากการเดินสายแข่งว่าวทั่วประเทศไทย ผู้ได้รับการขนานนามจากวงการว่าวว่า “ปรมาจารย์แห่งว่าวอีสาน” ซึ่งนำจุดเด่นของจ.บุรีรัมย์ อย่างภาพปราสาทหินพนมรุ้ง สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ และพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช แลนด์มาร์ก แห่งใหม่ของจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้ออกแบบจึงได้นำจุดเด่นทั้ง 2 สิ่งมาแต่งแต้มบนว่าวสองห้องผสานเข้ากับลวดลายไทยที่มีความลงตัว
ว่าววงเดือน จากภาคใต้ เป็นว่าวท้องถิ่นของมลายู และสามจังหวัดชายแดนใต้ โดยภาษามลายูเรียกว่า “วาบูแล” มีลักษณะรูปร่างโค้งเหมือนจันทร์เสี้ยว โดยมีไม้ 1 อันที่มีความยาวกว่าเพื่อใช้ผูกยึดติดกับใต้ปีกด้านบน ระหว่างกลางของปีกกับพระจันทร์เสี้ยว มีไม้ดัดเป็นรูปวงกลม แล้วนำกระดาษมาปิดทับลงบนโครง สวยงามด้วยลวดลายอันละเอียดและประณีตในเรื่องของลวดลายดอกไม้ต่างๆ จากการออกแบบของ “นายมูฮำหมัดยากี เจ๊ะแว” รองประธานกลุ่มคนรักว่าวยะลา โดยถูกยกให้เป็นครูว่าวภาคใต้ พร้อมดีกรีผู้ชนะเลิศว่าวสวยงามถ้วยพระราชทานฯ
โซนที่ 2 ลานวิพิธทัศนา ชมการแสดงวัฒนธรรมไทย จากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม นำมาจัดแสดงตามรอบ อาทิ การแสดงกระตั้วแทงเสือ โดยสภาวัฒนธรรมเขตภาษีเจริญ การแสดงหุ่นสายเสมา โดยสภาวัฒนธรรมเขตหลักสี่, การแสดงจับม้านิลมังกร, ประลองดาบไทย, สิงโตนำโชค การแสดงโปงลางอยู่เย็นวิทยาบรรเลง เปิดวงโชว์นางไหรำเพลงแพรวากาฬสินธุ์ โดยสภาวัฒนธรรมเขตตลิ่งชัน การแสดงศิลปวัฒนธรรมภาคเหนือ โดยสภาวัฒนธรรมเขตพระโขนง การแสดงศิลปวัฒนธรรมภาคเหนือ/อีสาน โดยสภาวัฒนธรรมเขตห้วยขวาง
โซนที่ 3 ลานเพลินว่าวนานาชาติ ชมการโชว์เล่นว่าว Inflatable Kite Show ว่าวแฟนซีขนาดใหญ่ถึง 30 เมตร จาก Thaitan Kite Team Thailand ทีมนักบินว่าวมืออาชีพ ที่เคยได้รับรางวัลรางวัลที่ 1 จากการแข่งขันว่าวนานาชาติมาแล้ว พร้อมร่วมกิจกรรม Work Shop สอนทำว่าวมือสำหรับเยาวชนและผู้ที่สนใจ
โซนที่ 4 ลานมหัศจรรย์ริมน้ำ ลานเล่นว่าวสำหรับประชาชนทั่วไป และเรียนรู้เทคนิคการเล่นว่าวได้จากผู้เชี่ยวชาญการบินว่าวสายแชมป์จากสมาคมกีฬาว่าวไทย จุฬา-ปักเป้า
นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจทุกวันพฤหัส ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ชวนเพลิดเพลินไปกับการแสดงวัฒนธรรมเล่าขานตำนานว่าวภาคใต้ และพิธีมอบรางวัลให้กับผู้ชนะการแข่งขันศึกจ้าวเวหา จุฬาปะทะปักเป้า รับเงินรางวัลและถ้วยรางวัลจากสมาคมศิษย์เก่าการเรือน สวนดุสิตในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี รวมมูลค่ากว่า 30,000 บาท และรางวัลพิเศษจากไอคอนสยามสำหรับ ผู้ชนะเลิศ ICONSIAM ศึกจ้าวเวหา 2022 ประเภท จุฬา ปะทะ ปักเป้า รับ VIZ COIN พร้อมถ้วยรางวัลจากไอคอนสยาม โดยผู้ชนะได้รับรางวัลชนะเลิศได้แก่ ทีมพระฤาษีตรีเนตร
ชมการแสดงว่าวนานาชาติ ที่ได้ทีมบินว่าวจากประเทศเวียดนามมาโชว์การแสดงต้อนรับปีใหม่ไทย พร้อมพบกับการแสดงทางวัฒนธรรมตำนานว่าวภาคกลางและภาคเหนือ ไม่ว่าจะเป็น ว่าวจุฬา ว่าวปักเป้า ว่าวอีลุ้ม ว่าวอีแพรด ว่าวงู ว่าวพระร่วง วันที่ 13-17 เมษายน :
พลาดไม่ได้กับการแสดงวัฒนธรรมตำนานว่าวจุฬา-ปักเป้า และการแสดงวัฒนธรรมเล่าขานตำนานว่าวสองห้อง จากภาคอีสาน โดยสมาคมกีฬาว่าวไทย จุฬา-ปักเป้า นำโดยทีมงานอาจารย์แชมป์ถ้วยพระราชทาน วันที่ 21-24 เมษายน
ไอคอนสยามขอเชิญร่วมอนุรักษ์สืบสานว่าวไทยมาสนุก ณ ลานความสุขที่ผู้ใหญ่จะได้ย้อนวัย เด็กได้เรียนรู้การละเล่นไทย สัมผัสความสนุกสนานของว่าวไทยและว่าวนานาชาติ ในยามเย็น ทุกวันพฤหัสบดี – วันอาทิตย์ เวลา 16.00 – 20.00 น. ตั้งแต่วันนี้ -24 เมษายน 2565 ณ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม ถนนเจริญนคร สามารถเดินทางมาไอคอนสยามได้อย่างสะดวกและรวดเร็วโดยรถไฟฟ้าสายสีทอง และเล่นว่าวได้อย่างมั่นใจด้วยมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.1338 หรือ www.iconsiam.com